ปาฏิหาริย์รัก ...จากภรรยาทหารผู้เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก ที่พะเยา



                        
                         "ปาฏิหาริย์รัก" ...จากภรรยาทหารผู้เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก ที่พะเยา

เปิดเรื่องราวปาฏิหารย์รัก จากภรรยานายทหารหาญ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ของคณะรองแม่ทัพภาคที่ 3 ตกที่ จ.พะเยา แม้วันนี้กายอยู่ไกล แต่ใจยังอยู่ด้วยกัน

        นับเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียสามีผู้เป็นที่รักไปทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียง 8 เดือน และยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเพิ่งจะทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ โดยที่สามียังไม่รู้ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ คุณพิรชา ช่างสลัก (ปอ) ภรรยาของ พ.อ. วรพงศ์ ช่างสลัก (ปอ) หนึ่งใน 9 ทหารกล้าผู้สูญเสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ของคณะรองแม่ทัพภาคที่ 3 ตกที่ จ.พะเยา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557

จนถึงขณะนี้เวลาได้ผ่านมาแล้วร่วม 2 เดือน ทางรายการตีสิบ จึงได้เชิญ คุณพิรชา หรือ ปอหญิง มาแบ่งปันเรื่องราวความรักที่ไม่มีวันตายของเธอและสามี เพื่อเป็นสิ่งเตือนให้ใจเราเอาใจใส่คนที่เรารัก ก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งออกอากาศไปเมื่อคืนวันที่ 27 มกราคม 2558

โดย ปอหญิง เปิดเผยว่า สภาพจิตใจของเธอในตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว ร้องไห้น้อยลง และเข็มแข็งขึ้น นอกจากนี้เธอยังได้นำเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างตัวเองและสามีมาถ่ายทอดลงในเฟซบุ๊กด้วย เพราะนับตั้งแต่วันที่สามีเสียชีวิตไป ก็เหมือนกับโลกถล่ม เธอไม่รู้ว่าจะบอกเล่าให้คนอื่นเข้าใจได้อย่างไรว่าเธอต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือการบำบัดตัวเองด้วยการเขียนว่าเธอคิดถึงสามีมากแค่ไหน ผ่านทางเฟซบุ๊ก ทั้งเธอไม่อยากให้เขาเป็นเพียงนักบินที่เสียชีวิตไปในหน้าที่เท่านั้น เพราะเขายังมีเรื่องราวดี ๆ ที่คนยังไม่รู้อีกมาก ทั้งในมุมของลูกที่สร้างความภาคภูมิใจแก่พ่อ-แม่ พี่ชายที่ดีของน้อง รวมถึงสามีผู้รักและคอยดูแลภรรยาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เธอจึงอยากให้คนได้ทราบว่าเขามีความดีอยู่มากแค่ไหน


ภายในเฟซบุ๊กของเธอ ยังได้บอกเล่าเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของนายทหารผู้เป็นโรแมนติก และชอบเขียนไดอารี่ พ.อ. วรพงศ์ หรือ ปอชาย มักจะจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเขาและภรรยาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากจำได้ว่าพวกเขาเคยเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาก่อน

           "ครั้งแรกที่ปอเขียนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนอกจากระบายความรู้สึกของเรา ให้ใครก็ได้เข้าใจเราสักคนหนึ่ง แต่หลังจากที่เราเริ่มเขียนไปก็มีกำลังใจทั้งจากคนที่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จักอีกมากมาย เค้าเห็นความน่ารักแสนดีของแฟนเรา แล้วบอกว่าจะเป็นกำลังใจให้เรา การที่เราเล่าเรื่องทุกวันนี้ทำให้หลาย ๆ คู่รักได้คิดว่า เราไม่รู้ว่าเราจะจากกันเมื่อไร การที่เราเขียนจึงมีประโยชน์ให้คนที่รักกันแล้วยังมีลมหายใจอยู่ด้วยกัน ได้ใช้เวลาทุกวินาทีให้ดีที่สุด" ปอหญิง กล่าว

           อย่างไรก็ตามการจากไปของสามีนั้น ได้ก่อให้เกิดเรื่องราวบางอย่างที่อาจนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ของความรัก โดย ปอหญิง เล่าว่า ในตอนที่สามีของเธอเสีย เธอได้รับสิ่งของที่เป็นเครื่องใช้ส่วนตัวในชุดนักบินของปอชายกลับคืนมา โดยสิ่งที่ได้รับคืนคือพระเครื่องพวงหนึ่ง แหวนแต่งงาน และรูปคู่ที่ทั้งเธอและสามีต่างพกไว้เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้คืนก็คือสร้อยพระหลวงปู่ทวดที่สามีคล้องติดคอไว้เสมอ โดยเธอคิดว่าคงจะไม่ได้คืนแล้วเพราะทีมงานและเพื่อน ๆ ของสามีต่างก็ช่วยค้นหากันอย่างเต็มที่แล้ว

           สำหรับสร้อยหลวงปู่ทวดนั้น เป็นสร้อยที่ ปอชาย เป็นผู้บูชามาเมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.ปัตตานี ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะถึงวัด ต้องนำ M16 ขึ้นรถกระบะเพื่อเดินทางไปบูชา โดยบูชามา 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นองค์เล็กที่ ปอหญิง ใช้คล้องคอ ส่วนอีกองค์เป็นของ ปอชาย โดยทั้งคู่ได้เดินทางไปเลี่ยมพระและซื้อเชือกคล้องด้วยกัน

           และหลังจากที่ ปอชาย เสียชีวิตได้ราว 38 วัน เธอก็ได้เดินทางไปทำพิธีเชิญวิญญาณของสามียังจุดเกิดเหตุ เพื่อเชิญวิญญาณกลับบ้าน และไม่น่าเชื่อว่าในระหว่างที่พระกำลังสวด น้องที่เป็นคนเตรียมสถานที่ก็สังเกตเห็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่มีเชือกเส้นหนึ่งคล้องอยู่ โผล่ออกมาจากจุดที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเธอ และเมื่อดึงเชือกออกมาก็ได้พบกับสร้อยหลวงปู่ทวดที่ฝังอยู่ในดิน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ปอหญิง เชื่อว่าเป็นเพราะสามีอยากให้เธอเก็บพระองค์นี้ไว้และไปรับด้วยตัวเอง มันจึงรอเธออยู่จนถึงวันที่เธอไปรับได้ 
นอกจากนี้ ปอหญิง ยังเผยว่า เธอรู้สึกเหมือนว่าสามียังคงอยู่กับเธอตลอด โดยหลังจากที่สามีเสียชีวิตได้ราว 20 กว่าวัน ตัวเธอที่ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้และไม่อยากมีชีวิตอยู่ ได้ตัดสินใจหันหน้าเข้าหาธรรมะเพราะคิดว่าจะช่วยยึดเหนี่ยวตัวเองได้ ทว่าเพียงวันแรกที่ไปปฏิบัติธรรม ในคืนนั้นเธอกลับเกิดความคิดฟุ้งซ่าน เหมือนใจยังไม่พร้อม หลังจากกลับห้องมาเธอก็คิดถึงแต่สามี ได้แต่หยิบรูปของ ปอชาย ออกมาดูและนั่งร้องไห้ คิดแต่ว่าอยากจะตาย ไม่อยากอยู่แล้วเพราะคิดถึงเขามาก แต่ในที่สุดเมื่อเธอคิดถึงว่ายังมีพ่อ-แม่อีก 4 คนที่เหลือเธอเป็นหลักเพียงคนเดียว เธอก็นึกขึ้นได้ว่าต้องอดทน

           และในเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นเอง อยู่ดี ๆ ญาติของเธอก็เดินทางมาที่วัดและรีบตรงเข้ามาหาเธอด้วยอาการลนลาน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ติดต่อกันทั้งคืน พร้อมทั้งบอกกับเธอว่า ปอชาย ได้มาเข้าฝันตัวเองเพื่อขอร้องให้มารับเธอที่วัด โดย ปอชาย บอกกับญาติของเธอในฝันว่า "ใครก็ได้ช่วยไปรับปอหญิงที่วัดที ผมไม่อยากให้ปอหญิงไปอยู่ที่วัดตอนนี้ครับ ปอหญิงอยู่คนเดียว และร้องไห้ และคิดจะทำอะไรที่ไม่ดี ใครก็ได้ครับช่วยผมที ไปรับปอหญิงที" 

           จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอเชื่อว่าสามียังไม่ทิ้งเธอได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอเลิกคิดฆ่าตัวตายเป็นเพราะพ่อกับแม่ เพราะครอบครัวของ ปอชาย ไม่เหลือใครอีกแล้ว ครอบครัวของ ปอชาย มีลูกชาย 2 คน โดยน้องของ ปอชาย ที่เป็นทหารก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 2556 ถัดมา 1 ปี เมื่อแม่กำลังจะดีขึ้น ปอชาย ก็จากไปอีกคน จึงเหลือเพียงคนเดียวที่จะอยู่กับพ่อและแม่ของเขา

           หลังจากนั้น ปอหญิง ก็เพิ่งจะได้ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้น เธอเผยว่า "มันบอกไม่ถูกแต่มันรู้สึกอุ่นใจ เหมือนเราไม่ได้โดดเดี่ยวแล้วนะ ปอชายเค้าไม่ทิ้งเรานะ อย่างน้อยการที่เค้าไม่อยู่ เค้าก็ยังไม่ทำให้เราอ้างว้างเกินไป" จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังจุดธูปคุยกับสามีทุกวัน บอกกันเขาว่าจะเข็มแข็ง จะอยู่ให้ได้ และอย่างที่ ปอชาย เคยพูดอยู่เสมอว่า เป็นเมียทหารต้องอดทน จนตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว และถึงแม้ว่าสามีจะไม่อยู่ แต่พวกเขาก็เคยตั้งชื่อลูกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยหากเป็นเด็กหญิงจะชื่อ โบว์อ้วน ซึ่งเป็นชื่อน่ารัก ๆ ที่สามีชอบตอนดูหนังเกาหลี และหากเป็นเด็กชายจะชื่อ ฮิวอี้ ซึ่งเป็นชื่อของเฮลิคอปเตอร์

           สำหรับชีวิตรักที่เป็นเหมือนนิยายของทั้งคู่นั้น เริ่มขึ้นนับจากที่ทั้งคู่เรียนโรงเรียนเดียวกันมากตั้งแต่อนุบาล ประถม และมัธยม กระทั่งแยกย้ายกันไปทำงานแล้วกลับมาพบกันอีกครั้งในปี 2553 ผ่านทางเฟซบุ๊ก เพราะเธอจำหน้าของอีกฝ่ายได้จึงได้เริ่มทักไปก่อน และนับจากนั้นก็สานความสัมพันธ์กันอีกครั้งกระทั่งได้แต่งงานกัน


ปอหญิง เผยว่า ปอชาย นั้นเป็นคนที่โรแมนติก ชอบใช้คำพูดโบราณ ชอบเขียนบันทึกต่าง ๆ และเวลาที่เขาออกไปทำงานหลายวันก็จะโทรศัพท์มาคุยกับเธอวันละหลายเวลา จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายที่เขาเสียชีวิต ในวันที่เกิดเหตุ ปอชาย ยังคงโทรศัพท์มาหา ปอหญิง ทั้งตอนเช้าและกลางวัน กระทั่งสายสุดท้ายที่วางสายไปในเวลา 16.47 น. ก่อนที่ ปอชาย จะประสบอุบัติเหตุในเวลา 17.30 น.

           "ปอเพิ่งคุยกับปอชายตอน 16.47 น. เขาบอกว่าถึงเชียงรายแล้วจะโทรหา เมื่อวางสายเราก็มาทำงานตามปกติ วันนั้นประมาณ 5 โมงกว่า ๆ ก็มีเพื่อน จปร. ของปอชายอินบ็อกซ์เราเข้ามา ถามว่าเราติดต่อกับปอชายได้ไหม เราก็บอกว่าได้เพราะเพิ่งจะวางสายจากแฟนไปไม่นาน ก็ไม่ได้คิดอะไร ยังบอกไปว่าปอชายน่าจะยังบินอยู่ เดี๋ยวบินเสร็จก็น่าจะโทรหากันได้ เขาจึงบอกให้เราเช็กข่าว และหลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาตลอด ตอนนั้นเราไม่ได้เปิดทีวีหรือโซเชียล แต่รีบขับรถตรงไปที่บ้านแม่ของปอชายในทันที เมื่อไปถึงก็เห็นคนรุมอยู่ที่บ้านแม่เต็มไปหมด แม่ร้องไห้หนักมาก พ่อก็บอกว่าเครื่องของปอชายตก ตอนนี้มีรายชื่อผู้เสียชีวิตมาแล้ว 5 คน แต่ยังไม่เจอปอชายนะ เราจึงไปสวดมนต์ขอให้คุ้มครองปอชาย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอด" ปอหญิง กล่าว

           ปอหญิง ยังเผยว่า สามีของเธอเป็นคนที่รักษาสัญญาทุกอย่าง เว้นเพียงอย่างเดียวที่เขาทำไม่ได้ ก็คือสัญญาที่เขาให้ไว้กับเธอในวันแต่งงาน ซึ่งในตอนนั้นเธอได้บอกกับเขาว่า "ตัวเองสัญญากับเราข้อนึง เราไม่ขออะไรเลย ขอแค่ข้อเดียว เราไม่ขอเรื่องผู้หญิง เราไม่ขอเรื่องเงิน เราไม่ขอสิ่งของ เราขอสัญญาแค่ข้อเดียว ว่าตัวเองอย่าตายก่อนเรานะ เราอยู่ไม่ได้ ปอชายเขาก็รับปาก เขาก็บอกว่าเราสัญญา เราไม่มีทางทิ้งตัวเอง เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ยังไงเราก็ไม่มีทางทิ้งตัวเอง"

           ยังมีอีกหลายสิ่งที่เธอเพิ่งได้เห็นหลังจากที่ ปอชาย เสียชีวิต นั่นก็คือเอกสารการมอบเงินบำเหน็จตกทอดจากการเสียชีวิตของเขา ที่ ปอชาย ได้เขียนมอบให้แก่เธอตั้งแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงาน และได้พบไดอารี่ของ ปอชาย ที่มีทั้งรูปภาพและคำบรรยายต่าง ๆ ที่แสดงถึงความรักที่เขามีให้ต่อเธอ รวมถึงข้อความหนึ่งที่เขาเขียนไว้ล่วงหน้า ราวกับจะรู้ว่านั่นจะเป็นประโยคที่สามารถปลอบประโลมเธอ ในวันที่เขาไม่อยู่เคียงข้างเธอแล้วอีกด้วย ดังนี้


"ตัวไกลแต่ใจไม่ห่าง ถึงแม้ในช่วงเวลาที่เราต้องไปทำงาน ต้องห่างกัน แต่อย่างที่บอก เราห่างกันเพียงแต่กายนะ แต่ใจของเรายังอยู่ที่ตัวเองคนเดียวนะครับ ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ขอให้อดทนและเข้มแข็งนะ อดทนให้มาก ๆ เราจะรอตัวเองนะ อีกอย่างเราไปแค่ 10 วันเอง เดี๋ยวกลับมาหาตัวเองแล้ว"

           ปอหญิง บอกด้วยว่า เธอเชื่อว่า ปอชาย ยังคงไม่ทิ้งเธอไป เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเขาไม่เคยผิดสัญญา แล้วเธอก็จะอดทนให้ได้ตามที่เขาขอ จะขออยู่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของเขาเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่เคียงข้างกัน ถ่ายทอดให้คนได้รู้เรื่องราวของเขา ให้คนรู้ว่าโลกยังมีคนที่น่าเอาไว้เป็นเยี่ยงอย่างเช่นนี้อยู่ในโลก
และหากขณะนี้ ปอชาย ยังคงอยู่ สิ่งที่เธออยากพูดกับเขาก็คือ ตลอดเวลาที่เธอและเขารู้จักกันมา ไม่เคยมีวินาทีไหนที่เราไม่รักกัน เราใช้เวลาอย่างคุ้มค่าทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกัน... "จนถึงวันนี้ เราสัญญาว่าเราจะอดทนให้สมกับที่เป็นเมียของตัวเอง เป็นเมียทหาร และเราจะทำหน้าที่ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง แทนตัวเองให้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เมื่อถึงเวลาที่เราหมดอายุขัย เรารู้ว่าตัวเองจะไม่ผิดสัญญา" ปอหญิง กล่าว


ปาฏิหาริย์รัก ...จากภรรยาทหารผู้เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก ที่พะเยา ปาฏิหาริย์รัก ...จากภรรยาทหารผู้เสียชีวิตเหตุ ฮ.ตก ที่พะเยา Reviewed by Unknown on 08:55 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น