ชุป'ตาร์ลูกทุ่งเปิดบันทึกรักครั้งแรกที่จำฝังใจ

ถ้าพูดถึงความรัก ความรักนั้นมันคือสิ่งสวยงาม คือสิ่งที่มีอยู่ในตัวของทุกคน เพียงแค่ว่าเราจะใช้มันยังไง ความรักมีหลากหลายรูปแบบ ล้วนแล้วแต่ว่าเราจะเลือกเป็นแบบไหน สถานะอะไร ซึ่งมีทั้ง รักแบบเสน่ห์หา , รักแบบไม่ผูกมัด , รักแบบมิตรภาพ , รักแบบลุ่มหลง , รักแบบมีเหตุผล หรือ รักแบบเสียสละ ทั้งหมดนี้อยู่ที่เราเป็นคนตัดสินเองทั้งสิ้น แต่มีอยู่หนึ่งรักที่ไม่ว่าจะพูดถึงสักกี่ครั้งก็มักจะอมยิ้มอยู่ร่ำไป นั่นคือ รักครั้งแรก นั่นเอง วันนี้เรามาดูบรรดาเหล่าศิลปินกันว่า รักครั้งแรกของเขาและเธอเหล่านั้นจะน่ารัก กุ๊กกิ๊ก หรือซาบซ่ากันขนาดไหน ไปติดตามกันเลย

        "ลำยอง หนองหินห่าว"

        "ถ้าให้พูดถึงรักครั้งแรกของลำยอง นะคะ รักครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงสมัยมัธยม คือมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งเขียนจดหมายรัก ฝากเพื่อนมาให้ โดยเนื้อความในจดหมายลำยองยังจำได้มาจนถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ  "มองสิที่ตาฉัน จะรู้ว่ารักและผูกพันแค่ไหน รักเธอจนหมดหัวใจ ไม่เหลือเผื่อใครนอกจากเธอ" ตอนนั้นเขิมมากๆ ถึงมากที่สุด เพราะรุ่นพี่คนนั้นเป็นประธานนักเรียนด้วย เป็นที่หมายตาของสาวๆ ทั้งโรงเรียนที่สำคัญเขาหล่อด้วยนะ (หัวเราะ)
        ถ้ามองย้อนไปก็น่ารักดีเพราะเป็นการเขียนจดหมายรักจีบกันไปมา ที่ไม่เหมือนสมัยนี้แม้กระทั่งลายมือเรายังไม่ได้เห็นเลยมัวแต่แชทกันอยู่ ตอนนั้นพี่เขาก็มีให้ของขวัญเรามาเหมือนกัน เป็นสร้อยคอสแตนเลส ดีใจมากได้มาเราก็ใส่เลย ปรากฎใส่แล้วคอเป็นผื่นผด เต็มเลย คันคอสุดๆ แต่ก็ทนใส่นะ จนไม่ไหวก็ถอดเก็บเพราะแพ้สอตนเลส
        มองในมุมกลับกันลำยองไม่เคยได้ให้ของขวัญพี่เขากลับไปเลย แต่ว่าพอถึงฤดูเกี่ยวข้าวก็จะชวนพี่เขามาเกี่ยวข้าวกับที่บ้านของลำยอง อยู่ในสายตาพ่อ-แม่ตลอด เพราะท่านหวงลูกสาวคนนี้มากพี่เขาก็ดีใจนะคะที่เราชวนไปเกี่ยวข้าวเพราะได้เจอที่บ้านเราด้วย ถ้าถามถึงการออกเดทบอกได้เลยว่า ไม่มีคะ อย่างที่บอกที่บ้านค่อนข้างหวงถ้าออกเดทคือเขามาเกี่ยวข้าวที่นาบ้านเราจะมีแค่นั้น ที่เหลือก็คุยกันทางจดหมายตลอด"

        "ตั๊ก วชรกรณ์"

        "ขอออกตัวก่อนเลยว่า ตั๊กเป็นคนที่ขี้อายมากๆ ครับ การที่เราได้แอบชอบใครสักคนนี่ก็สุดยอดแล้วครับ เป็นการแอบชอบเขาฝ่ายเดียวนะ ซึ่งถามว่าทุกวันนี้เขายังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เป็นความรักในวัยเด็กน่ารักๆ ใสๆ ครับ ช่วงประมาณประถมเห็นจะได้ ผมแอบชอบเพื่อนร่วมห้องอยู่คนนึง เขาเป็นคนที่น่ารักในสายตาของผมมาก ชอบมาก แต่ไม่เคยคุยด้วยกันเลย เพราะไม่กล้าคุยแค่ยืนใกล้ๆ เขามากมาเรายังหน้าแดง ก็เลยตัดสินใจดูห่างๆ อย่างห่วงๆ ครับ
        ถ้าถามความรู้สึกตอนมันมีความสุขมากๆ กับการได้มองหน้าเขา อยากบอกว่ารักแต่ก็ไม่กล้า เวลาที่ใกล้เขามีรู้ที่ตื่นเต้นแล้วร้อนผ่าวไปทั้งตัวและหัวใจ ต้องคอยหลบสายตาที่เวลามองเขาตอนที่เขาหันกลับมามองเรา มีบ้างบางครั้งที่ผมก็จะแอบเอาขนม ลูกอมไปวางไว้บนโต๊ะ เขาก็งงๆ นะครับว่าใครเอามาให้ ซึ่งถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำครับ แต่พอมองย้อนไปก็รู้สึกดีครับที่ไม่ได้เปิดเผยตัว เพราะถ้าเราเปิดเผยตัวเขาอาจไม่รับรักเราก็ได้ครับ"

        "เอิร์น สุรัตน์ติกานต์"

        "รักครั้งแรกของเอิร์น เกิดขึ้นตอนม. 2 ค่ะ ตอนนั้นแอบกรี๊ดรุ่นพี่คนนึงเขาเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียนด้วย หล่อ สูง ขาว เป็นนักบาสตัวท๊อปของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ มันเหมือนคลั่งไคล้ศิลปินเกาหลีในสมัยนี้ เค้าไปแข่งกีฬาไปซ้อมกีฬาที่ไหนเราก็แอบไปกรี๊ดไปเชียร์ แต่อยู่แถวหลังตลอด เพราะเป็นลูกอาจารย์กลัวโดนว่า (หัวเราะ)

        ตอนนั้นก็เหมือนเพื่อนๆ คนอื่นๆ นะคะ เราก็ไปดูที่เขาเล่นบาสทุกทีจนมีอยู่ครั้งหนึ่งทีมพี่เขาชนะได้เหรียญรางวัล พี่เขาก็วิ่งฝ่าฝูงชนเอาเหรียญทองมาแขวนคอให้เรา ยิ้มให้ทีนึง แล้วก็วิ่งหนีไป ตอนนั้น ดีใจมากคะ งงด้วย เพราะไม่เคยคุยกันเลย แค่แอบมองกันเฉยๆ คือมันเป็นธรรมเนียมของโรงเรียนที่เอิร์นเรียนอยู่ว่าที่แข่งกีฬา แล้วชนะได้เหรียญทองแล้วนักกีฬาคนนั้นเอาเหรียญทองไปแขวนที่คอใคร แสดงว่าคนๆ นั้นเป็นที่แอบชอบพอของนักกีฬาคนนั้นอยู่ด้วย เขินมากๆ เลย

        หลังจากนั้นพี่เขาก็ชวนเราไปดูหนัง เหมือนเป็นการออกเดทครั้งแรก แต่ไม่ได้ไปกัน 2 คนนะคะ มีคุณแม่เอิร์นไปด้วย (หัวเราะ) เพราะตอนนั้นเรายังเด็กเป็นลูกอาจารย์ เลยต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดค่ะ ก็อุ่นใจดีที่มีแม่ไปด้วยในครั้งนั้น"

        "เปาวลี พรพิมล"
"ถ้าให้พูดถึงรักครั้งแรกของเปา ก็มีอยู่นะคะตอนนั้นแอบชอบรุ่นพี่ตอนม.ต้น ตอนนั้นเปายังอยู่ประถมอยู่เลย เป็นความรักแบบเด็กๆ มากๆ คะ  รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นหรือเจอ แต่ก็มีอยู่ครั้งนึงนะคะ พี่คนที่เปาแอบชอบเอาลูกอมรูปหัวใจมาให้เปา 1 เม็ด ให้ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ เพราะพี่เขาแค่ยื่นมาให้ไม่ได้ถาม ไม่ได้คุยกันใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ ก็เป็นแค่นั้นความรักครั้งแรกของเปา แต่ปัจจุบันนี้พี่เขาก็แต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วคะ"

        "แช่ม แช่มรัมย์"
        "ผมนายแช่ม แช่มรัมย์ เห็นหน้าตาแบบนี้ก็เคยมีรักครั้งแรกกับเขาเหมือนกันนะครับ แต่ตอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงม.1 ตอนนั้นจำได้ว่าลงทุนขอพ่อซื้อจักรยานเพื่อปั่นไปจีบสาวแต่เขาขับมอเตอร์ไซค์ ปั่นไงก็ไม่ทันเขา ช่วงนั้นก็อยากทำตัวเด่น อยากมีมอเตอร์ไซค์เหมือนเขาเพราะอยากขับไปพร้อมๆ กัน แต่ก็ได้แค่ปั่นจักรยาน แต่มองในมุมกลับผมว่า ผมก็สามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นประทับใจได้นะครับ เพราะปั่นจักรยานเป็นระยะทาง 20 กิโล เพื่อไปส่งเขาแล้วตอนกลับเขาโบกมือให้แล้วยิ้มตอบรับเหมือนแสดงความประทับใจเรา แค่นี้ก็สุดยอดของนายแช่มแล้ว
        หลังจากนั้นก็มีนัดกันไปดูหนังด้วย โดดเรียนไปนะครับ (เด็กห้ามทำตามนะ)  ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมและผู้หญิงคนนั้นที่ได้เข้าโรงหนัง และยิ่งกว่านั้นเก้าอี้แถวหลังถัดจากเรานั่งเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนตามมาจับเรา เราสองคนเลยโดนตีหน้าเสาธง (หัวเราะ) แต่ความรักก็จบลงแค่นั้นครับ เป็นช่วงสั้นๆ พอขึ้นม.1 เทอมสอง ผมก็ย้ายโรงเรียนแล้วครับ"

        "ก้านตอง ทุ่งเงิน"
        "ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องรักครั้งเท่าไหร่เลย กลัวคนหาว่าก้านตองแก่แดด (หัวเราะ) เพราะรักครั้งแรกของก้านตองเกิดขึ้นสมัยอนุบาลโน่นคะ รู้สึกว่าใจมันเต้นแรงมีอาการว่าเราอายเขามากๆ เลย แต่ว่าไม่ได้แสดงออกมาเพราะไม่กล้า เวลาเขาเดินผ่านเราจะอายเขามาก ก็มีแค่นี้นะ เพราะมันเด็กมาก ก็แค่แอบชอบเฉยๆ คะ"

        "รัชนก ศรีโลพันธุ์"
        "รักครั้งแรกของ รัชนก ศรีโลพันธุ์ เกิดขึ้นช่วงเรียนอยู่มัธยมปลาย เป็นการแอบชอบเค้าข้างเดียว เค้าเป็นนักดนตรี เล่นกลองประจำโรงเรียนด้วย ตอนนั้นก็ชอบเค้ามากแต่ไม่กล้าบอก เพื่อนสนิทเรารู้กันทุกคน แอบตัดรูปเค้ามาติดสก๊อตเทปกลายเป็นรูปคู่กับเรา คอยเฝ้าดูเค้าซ้อมดนตรีทุกเย็น อันนี้คือการรักเค้าข้างเดียวนะคะ
        ถ้ามีแฟนครั้งแรกจะเป็นสมัยมหาวิทยาลัย เกิดขึ้นเนื่องจากจับฉลากในการเป็นพี่เทค เป็นการคบหากันแบบช่วยเหลือพึ่งพากัน เค้าเป็นรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำในการเรียนและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ของขวัญชิ้นแรกที่เราได้รับจากรักครั้งแรก จะเป็นดอกกุหลาบคะ และก็จะได้รับเป็นประจำทุกๆอาทิตย์ ประทับใจมากๆ คะ เพราะเป็นเครื่องหมายแทนการใส่ใจและสนใจกัน สำหรับของขวัญชิ้นแรกที่เรามอบเขาน่าจะเป็นบัตรเติมเงินโทรศัพท์ เพราะสมัยนั้นอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เลยต้องใช้การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กันตลอดเลย

        ส่วนการเดทครั้งแรกที่จำได้ น่าจะเป็นตลาดศาลเจ้า เพราะไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ มีอาหารอร่อยๆ เยอะ ราคาไม่แพง เป็นสถานที่ ที่พี่น้องในมหาวิทยาลัยนิยมไปกัน แต่พอเรียนจบต่างคนต่างก็แยกย้ายเดินตามความฝันของตัวเอง ก็เลยกลายเป็นห่างกันไปโดยปริยาย"

        อร้าย...ยย อ่านแล้วเผลออมยิ้มไปตามๆเลยชิมิล่าาา

...........................
ที่มา :http://www.siamdara.com