′โอวกี่′ ร้านลูกสาวสาขานางลิ้นจี่ สืบสานตำนานหมูสะเต๊ะท่าดินแดง โดย ปิ่นโตเถาเล็ก
คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม
โดย ปิ่นโตเถาเล็ก
ปิ่นโตเถาเล็กเป็นนักชิมหมูสะเต๊ะตัวยง สมัยหนุ่มน้อยไม่มีห่วงยางรอบเอว เคยซัดหมูสะเต๊ะมื้อละ 50 ไม้สบายๆ ขอหมูสะเต๊ะปิ้งไหม้ๆ เกรียมๆ ติดมันทุกไม้อีกต่างหาก ต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวเรืออีก 4 ชาม กำลังสบายท้อง จากวันนั้นถึงวันนี้ คราใดที่ข้าพเจ้าได้พานพบกับหมูสะเต๊ะเจ้าเด็ดก็ยังสู้ตายไม่แพ้กัน
อยู่มาวันหนึ่งพี่ป๋อม อลิศรา ศิริชุมแสง หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินอาหาร ได้นำหมูสะเต๊ะชุดใหญ่มาปรนเปรอพวกเรา เหล่าบรรดานักชิมถึงสตูดิโอถ่ายทำรายการ ไม่ว่าจะไปที่ไหนพี่ป๋อมจะซื้อหมูสะเต๊ะเจ้านี้ไปเลี้ยงเพื่อนฝูงอยู่เสมอมา เพียงไม้แรกที่ได้ลิ้มลองหมูสะเต๊ะก็รู้สึกวาบขึ้นมาในใจ ยินดีปรีดายิ่งนัก จึงรีบมาบอกต่อแฟนๆ ให้ไปจัดการของอร่อยที่นี่กันบ้าง
หมูสะเต๊ะเจ้าที่ว่านี้มาจาก "ร้านโอวกี่ สาขาถนนนางลิ้นจี่" ซึ่งอยู่ในตึกแถวคูหาเดียวริมถนน "ใกล้ปากซอยนางลิ้นจี่ 1" อยู่ฝั่งเดียวและใกล้กับ "ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขานางลิ้นจี่-เย็นอากาศ" นอกเวลาเร่งด่วนสามารถจอดรถริมถนนได้เลย โดยวันคี่ให้จอดฝั่งตรงข้าม และวันคู่จอดฝั่งเดียวกันกับร้าน
ร้านโอวกี่สาขานี้แตกหน่อมาจาก "โอวกี่ ท่าดินแดง ฝั่งธนบุรี" ซึ่งขายมาตั้งแต่รุ่นยายนานกว่า 50 ปีแล้ว เจ้าของร้านที่นางลิ้นจี่คือ คุณพิทักษ์ ปิยะโรจนะ ลูกเขย และคุณรัชนีวรรณ ลักขณาภิรมย์สุข ลูกสาวคนโตในรุ่นที่ 3 ออกเรือนมาเปิดร้านที่นางลิ้นจี่นาน 12 ปีแล้ว และตอนนี้ร้านโอวกี่ที่ท่าดินแดงว่าการโดยน้องชายและน้องสาว
ชื่อโอวกี่นั้นมีที่มาจากชื่อเรียกภาษาจีนของ "คุณบุญมา" ซึ่งเป็นคุณแม่ของคุณรัชนีวรรณ หมายถึงปานดำที่คาง ซึ่งมีมาตั้งแต่กำเนิด คุณบุญมาช่วยแม่ทำร้านขายก๋วยเตี๋ยวหลอดตั้งแต่ยังเล็ก และต่อมาได้เพิ่มหมูสะเต๊ะขึ้นมาอีกอย่าง ขายอยู่ที่ท่าดินแดง คลองสาน จนโด่งดังไปทั่ว เริ่มจากไม้ละสลึงเดียว จนยุคปัจจุบันนี้สนนราคา "ไม้ละ 6 บาท"
มาถึงตรงนี้แฟนๆ บางท่านที่เป็นคนรุ่นเดียวกับปิ่นโตเถาเล็กคงจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ถ้าอยากกินหมูสะเต๊ะท่าดินแดงต้องมาที่ "ร้านเก๋" ขอเฉลย ณ ที่นี้เลยว่า ร้านเก๋กับโอวกี่นั้นคือเจ้าเดียวกัน เพียงแต่ว่าเคยเปลี่ยนชื่อเป็นร้านเก๋ตามชื่อคุณพ่อของคุณรัชณีวรรณอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนี้เปลี่ยนกลับมาเป็นโอวกี่เหมือนเดิมได้ 10 ปีแล้ว
หมูสะเต๊ะโอวกี่นั้นนุ่มหอมมันมีรสมีชาติ ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลย เขาเลือกใช้ "เนื้อหมูอนามัย" จากผู้ผลิตรายใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีสารเร่งเนื้อแดง ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ปลอดจากพยาธิ อีกทั้งโอวกี่เองก็มีจุดขายว่าไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงเลย โดยใช้เนื้อหมูส่วนสันนอก รับมาเป็นก้อนใหญ่ๆ และหั่นให้มีความหนาเท่าหน้าไม้หมูสะเต๊ะ จากนั้นเข้าเครื่องแล่อัตโนมัติให้เป็นชิ้นๆ ขนาดที่เสียบไม้ได้ หมักกับผงกะหรี่ กะทิสดข้นๆ ซอสปรุงรส น้ำตาล ซอสเปรี้ยวหรือจิ๊กโฉ่ว แช่ในตู้เย็นทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง จากนั้นนำมาเสียบไม้ พอลูกค้าสั่งก็จะปิ้งร้อนๆ กับเตาถ่านไม้โกงกาง โดยจะจุ่มหมูสะเต๊ะในหางกะทิที่ข้นกว่าหางกะทิทั่วๆ ไปก่อนปิ้ง
หมูสะเต๊ะเจ้านี้เลือกได้ว่าอยากได้แบบเนื้อล้วนหรือติดมัน แน่นอนว่าผมต้องสั่งชนิดติดมัน ย่างร้อนๆ จนเกรียมนิดๆ จะกินทั้งทีต้องให้สะใจพระเดชพระคุณ
"น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ" นั้นคือทีเด็ด มีรสเข้มๆ หอมๆ เนียนลิ้นเป็นที่สุด รสชาติหอมเครื่องแกง มีรสเผ็ดเล็กน้อย หอมกลิ่นถั่วลิสงผสมงาคั่ว ซึ่งกลิ่นรสของถั่วลิสงไม่โดดออกมาแปลกแยกเหมือนบางเจ้า หอมกำลังดี ใครได้ชิมรับรองว่าน้ำจิ้มจานเดียวไม่เคยพอ แกล้มด้วยอาจาดเข้ากันดี เขารับพริกแกงมาจากเจ้าประจำ ผัดกับหัวกะทิจนแตกมัน ใส่ถั่วลิสงกับงาคั่วที่บดเพิ่มจนละเอียดเนียนลิ้น ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือ ขอย้ำเป็นครั้งที่สามว่าเนียนละมุนละไมมาก
นอกจากหมูสะเต๊ะแล้ว ให้สั่ง "ตับสะเต๊ะ" ชิ้นโตหนา สนนราคาไม้ละ 6 บาทเท่ากัน ซึ่งควรจิ้มน้ำจิ้มให้มากกว่าปกติจึงจะสะใจได้รสชาติ อย่าลืมสั่ง "ขนมปังหัวกะโหลกปิ้ง" หั่นมาชิ้นหนาๆ ถูกใจ แผ่นละ 5 บาท "ถ้าสั่งหมูสะเต๊ะใส่ถุงกลับบ้าน ต้องสั่งอย่างต่ำ 15 ไม้ขึ้นไป"
ที่โอวกี่ นางลิ้นจี่นั้นไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนที่ท่าดินแดง แต่มีข้าวราดแกงต่างๆ เพิ่มมา ราด 1 อย่างคิด 40 บาท 2 อย่างคิด 50 บาท แนะว่าให้สั่งใส่ถ้วย (50 บาท) มาต่างหาก ที่ควรลิ้มลองคือ "พะแนงซี่โครงหมู" ที่นุ่มเปื่อยล่อนจากกระดูก เครื่องแกงพะแนงรสเข้มข้นหอมกลิ่นลูกผักชี อีกอย่างที่ผมชื่นชอบคือ "แกงกะหรี่หมู" ใส่มัน ซึ่งใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า น้ำแกงกะหรี่นั้นก็รสเข้มหอมคลุกกับข้าวแล้ว รสชาติเข้มกำลังดีเลย
สอบถามเจ้าโอเพื่อนรักที่อยู่วิทยุการบินบอกว่า โอวกี่คือขวัญใจคนทำงานย่านนั้น วันธรรมดาจะแน่นมากตอนกลางวัน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ที่ผมไปเยือนนั้น คนจะทยอยมาเรื่อยๆ จึงขอแนะนำให้แฟนๆ อ่านจบแล้วรีบตามไปชิมในวันเสาร์-อาทิตย์นี้เลย ร้านเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงครึ่งเย็น หยุดทุกวันจันทร์เว้นจันทร์ ถ้าไปวันจันทร์ให้สอบถามก่อนได้ที่ 0-2678-9190, 08-1564-0599 (คุณพิทักษ์) นะจ๊ะ
โอวกี่ สาขาถนนนางลิ้นจี่
โดยคุณพิทักษ์ ปิยะโรจนะ และคุณรัชนีวรรณ ลักขณาภิรมย์สุข
ที่ตั้ง 43/3 ถนนนางลิ้นจี่ ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
โทร 0-2678-9190, 08-1564-0599 (คุณพิทักษ์)
เปิดบริการ 08.00-18.30 น. ทุกวัน
หยุดจันทร์เว้นจันทร์ (ให้โทรสอบถาม)
แนะนำหมูสะเต๊ะ พะแนงซี่โครงหมู แกงกะหรี่หมู
หมายเหตุ นอกเวลาเร่งด่วนจอดรถริมถนนได้ วันคี่ให้จอดฝั่งตรงข้าม วันคู่จอดฝั่งเดียวกันกับร้าน
..........................................
ที่มา: http://www.matichon.co.th
′โอวกี่′ ร้านลูกสาวสาขานางลิ้นจี่ สืบสานตำนานหมูสะเต๊ะท่าดินแดง โดย ปิ่นโตเถาเล็ก
Reviewed by Unknown
on
08:25
Rating:
Post a Comment