สาวใหญ่ช็อกหมดสติคาพวงมาลัย!! ขับรถชนจยย.-ลากทั้งรถทั้งคน ดับสยอง 2 ศพ

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 10 ก.ค. ร.ต.ท.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณกลางถนนปากทางเข้าบ้านโนนสง่า ม.7 ถ.อุดรธานี –หนองบัวลำภู กิโลเมตรที่ 15-16 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้เสียชีวิตคาที่เป็นชาย 2 ศพ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุพบร่างของนายดิษฐ์ชัย ชมภูพฤกษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านโนนสง่า ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรฯ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขายาวสีดำ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณล้อหน้าด้านซ้ายรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กต-3795 อุดรธานี ด้านหน้ารถพังยับเยิน

สภาพศพขาทั้งสองข้างเป็นแผลเหวอะหวะหวิดขาด ร่างกายแหลกเหลว กะโหลกศีรษะด้านบนยุบ และที่ใต้ท้องรถยนต์ ด้านหน้าพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1กก-4757 เชียงราย ของผู้ตาย สภาพรถพังยับเยินจากแรงชนและถูกลากครูดกับพื้นผิวถนนจากจุดเกิดเหตุราว 50 เมตร

ห่างไปอีกฝั่งถนนราว 10 เมตร พบร่างของนายจำเนียร ขันเดช อายุ 54 ปี อยู่บ้านโนนสง่าฯ คนซ้อนท้ายรถ จยย.สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น นอนหงายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพร่างกายพิการแขนขวาขาด แขนขาหัก กะโหลกบริเวณท้ายทอยแตก

ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุ คือ นางนันทา โพส อายุ 61 ปี ภรรยาชาวต่างชาติ อยู่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังอยู่ในอาการช็อกสุดขีดจนเป็นลมหลังพวงมาลัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้พยุงออกมาจากรถปฐมพยาบาลจนรู้สึกตัว พร้อมกับให้การหลังได้สติว่า ขณะตนขับรถมุ่งหน้าไปทางจังหวัดหนองบัวลำภู โดยใช้ความเร็วประมาณ 80-90 กม./ชม. ขับมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุที่มีสภาพถนนเป็นเนินสูง และไม่สามารมองเห็นถนนด้านหน้า หลังพ้นเนิน

ซึ่งเป็นจังหวะผู้ตายทั้งสองขับขี่รถ จยย.ซ้อนกันออกมาจากถนนในหมู่บ้านขึ้นถนนใหญ่ข้ามฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนเบรกรถไม่ทันและชนเข้าอย่างจัง จนร่างคนนั่งซ้อนท้ายกระเด็นออกจากเบาะรถจักรยานยนต์ ก่อนรถของตนจะลากร่างคนขับและรถ จยย.ไป ราว 50 เมตร จึงหยุดรถได้ ตนรู้สึกตกใจสุดขีดจนช็อกหมดสติไป และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นรวดเร็วมาก

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานางนันทา โพส ว่า “ขับรถโดยประมาททำให้คนอื่นถึงแก่ความตาย” ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพผู้ตายทั้งสองมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพ