ตกสะลิงดับ สยองเชียงใหม่ หนุ่มจีน-ถึงฆาต! เล่นโหนซิปไลน์

อุบัติเหตุสยองเชียงใหม่ หมอหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เล่นผจญภัยเหินเวหา หรือซิปไลน์ โหนสะลิงชมวิวกลางอากาศ เกิดพลัดตกร่วงจากต้นยางสูง 12 เมตร ดับอนาถ ที่อ.ดอยสะเก็ด จนท.เร่งตรวจสอบเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ หรืออุปกรณ์ขัดข้อง ด้านผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ สั่งยกเครื่องตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เผยซิปไลน์เป็นเครื่องเล่นยอดฮิตมีให้บริการในหลายอำเภอ


เมื่อวันที่ 2 ก.ค. จากกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทำกิจกรรมผจญภัยเหินเวหา ด้วยการโหนสะลิงจากต้นไม้สูงกว่า 12 เมตร ของบริษัทสกายไลน์ แอดเวนเจอร์ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และเกิดอุบัติเหตุสะลิงขาด จนนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวตกลงมาเสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้บริษัท ท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการผจญภัยเหินเวหา หรือซิปไลน์ต่างพากันตรวจสอบความปลอดภัยในอุปกรณ์ของตัวเองกันยกใหญ่


พ.ต.ต.สุริยันต์ จันทร์ใส พงส.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวจีนตกจากสะลิงบนต้นไม้สูงกว่า 12 เมตร เสียชีวิต บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวแบบผจญภัย ของบริษัท สกายไลน์ แอดเวนเจอร์ เลขที่ 29 หมู่ 3 ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่


จึงเดินทางไปตรวจสอบพบศพนายซู กวง เต๋า อายุ 44 ปี แพทย์ชาวจีน ค้างอยู่บนกิ่งไม้ พนักงานบริษัทสกายไลน์ แอดเวนเจอร์ พยายามนำร่างลงมา สภาพศพมีแผลตามใบหน้า ศีรษะแตก สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเดินทางมาเที่ยวกับครอบครัว ระหว่างทำกิจกรรมเพื่อเตรียมตัวโหนสะลิงไปตามยอดไม้ จากที่พักบนต้นยาง สูง 12 เมตร คาดว่าระหว่างคล้องตัวล็อกเพื่อโหนสะลิง แต่อุปกรณ์ไม่ล็อก ทำให้พลัดตกลงมาเสียชีวิต ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ พร้อมสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจสอบว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่หรืออุปกรณ์ไม่พร้อม เบื้องต้นแจ้งข้อหาบริษัท ร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไว้แล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวทำให้ ผู้ประกอบการธุรกิจโหนสะลิงหรือเรียกว่าซิปไลน์ต่างตื่นตัว และเร่งตรวจสอบอุปกรณ์ของบริษัทตัวเองเพื่อให้ปลอดภัย ซึ่งสถานที่ที่ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเล่นซิปไลน์มีที่ อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่อ่อน อ.แม่แตง และ อ.แม่ริม อ.สะเมิง และอีกแห่งในตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่คือในสวนสัตว์เชียงใหม่


นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ รักษาการ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่สถานที่ท่องเที่ยวแบบผจญภัย สกายไลน์ แอดเวนเจอร์ ตนสั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ของบริษัททาร์ซาน เอ็กซ์ตรีม ร่วมกันตรวจสอบความปลอดภัยของฐานการเล่นทุกจุด โดยเฉพาะจุดที่สูง และยาวกว่า 400 เมตร เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบก่อนการเล่นทุกเช้าทุกจุด


นายพีระยศ สร้อยทอง ผจก.แหล่งผจญภัยทาร์ซานเอ็กซ์ตรีม กล่าวว่า การผจญภัยเหินเวหา และชมความงามของทัศนียภาพมุมสูงของจังหวัดเชียงใหม่ของที่นี่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ตั้งแต่ช่วงเช้าทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่ออกสำรวจฐาน สายสะลิง อุปกรณ์ทั้งหมด ก่อนจะเปิดให้บริการ หากพบจะเดินการแก้ไข โดยลวดสะลิงที่รองรับน้ำหนัก 2 ตัน หากมีหลุดเพียงเส้นขนาดเล็ก ก็จะเปลี่ยนใหม่ทันที ถือว่าปลอดภัยเซฟตี้เซฟ 3 ชั้น และก่อนเปิดให้บริการ ทีมงานจะทดลองเล่นก่อนทุกวัน อุปกรณ์ทั้งหมดได้นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสถือว่าปลอดภัยสูงสุด มีใบรับรองคุณภาพมาตรฐานทุกชิ้น ร่วมไปถึงหมวกกันน็อก สนับเข่า เชือกที่รองรับน้ำหนักของผู้เล่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับซิปไลน์ หรือการโหนสะลิงนั้น เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบผจญภัย การบริการให้นักท่องเที่ยวซื้อทัวร์เป็นรายหัวในราคาแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระยะทางของการโหนสะลิง หากระยะทางใกล้เพียง 100-200 เมตร ราคาก็ไม่แพง แต่ส่วนใหญ่จะโหนสะลิงในระยะทางที่ไกลๆ จะคิดหัวละ 1,500-3,000 บาท หรืออาจจะแพงกว่านั้น ราคาจะบวกขึ้นอยู่ที่ระยะทางของการเดินทางด้วยว่าจะไปอำเภอใกล้เมือง หรืออำเภอไกลตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย


การโหนสะลิงจำนวนสถานี คือจำนวนจุดแต่ละจุดจะยึดกับต้นไม้ใหญ่ นิยมมากคือต้นยางใหญ่ในป่าลึก จะโยงสะลิงไปยึดกับต้นยางแต่ละต้น จากนั้นเจ้าของธุรกิจทัวร์จะทำที่พักบนต้นไม้ในแต่ละจุดแต่ละต้น จะโยงลวดสะลิงไปจนครบตามสถานีที่กำหนด ส่วนใหญ่มีมากถึง 20 สถานี บางสถานีผจญภัยผสมกันระหว่างโหนสะลิงแล้วเดินข้ามสะพานลอยฟ้า ทะยานในใยแมงมุมที่ทำด้วยเชือกยึดต้นไม้เป็นใยแมงมุม และเดินตามบันไดลิง และสะพานระหว่างต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง ตามที่บริษัททัวร์แต่ละแห่งจะสร้างขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะรับนักท่องเที่ยวจากโรงแรมเดินทางไปในป่าลึก ในอำเภอรอบนอกเมืองเชียงใหม่ จะมีเจ้าของบริษัททัวร์ไปขอสัมปทานกับทางป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่ง ในการขอใช้ประโยชน์ ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกชาติโดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมท่องเที่ยวแบบผจญภัย