ขายดีไม่ตกยุค! สุดยอดแบรนด์ไทยคงกระพัน
ในยุคสมัยหนึ่งเมืองไทยของเราเคยมีคำขวัญ "ไทยทำไทยใช้ ไทยเจริญ" เป็นหนึ่งในนโยบายสร้างชาติของท่านผู้นำ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ออกมาเพื่อปลูกฝังค่านิยมการใช้สินค้าไทย เมื่อนึกถึงคำขวัญนั้นก็ชวนให้คิดว่าในสมัยนั้นสินค้าที่เป็น "ไทยทำ" มีอะไรบ้าง เพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวันหรือไม่ ในเมื่อในแต่ละวันมนุษย์เราต้องอุปโภคบริโภคสินค้ามากมาย
ต้องยอมรับว่าเรื่ององค์ความรู้ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตต่าง ๆ เราตามหลังฝรั่งอยู่แล้ว สินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆที่ใช้กันก็มาจากเมืองนอกแทบทั้งนั้น แม้ว่าบางอย่างจะผลิตในเมืองไทยก็ตาม แต่ก็เป็นลักษณะการลงทุนของชาวต่างชาติ หรือเป็นการนำเข้ามาจำหน่าย
ฉะนั้นตั้งแต่แรกเริ่มในยุคที่ไทยเปิดรับเทคโนโลยีวิทยาการต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของไทยนั้นมีน้อยอยู่แล้ว ที่มีมากหน่อยก็คือสินค้าพวกยาหรือสมุนไพร เมื่อกาลเวลาล่วงมาจนถึงปัจจุบัน สินค้าสัญชาติไทยที่เคยมีก็ทยอยล้มหายตายจากไปเรื่อย ๆ ที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกหลงลืมไปตามกาลเวลา
พอมานั่งนับตอนนี้ ในแต่ละวันเราอาจจะไม่ได้ใช้สินค้าแบรนด์ไทยสักชิ้นก็ได้ แต่มองในอีกด้านหนึ่ง แบรนด์ไทยที่อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน แต่ละแบรนด์ล้วนขึ้นแท่นเป็นแบรนด์หมายเลข 1 ทั้งในด้านยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด และในแง่การจดจำของผู้บริโภค แต่ละแบรนด์เป็นชื่อที่คนไทยนึกถึงก่อนเสมอเมื่อพูดถึงชนิดสินค้านั้น ๆ
มาดูกันว่าแบรนด์สัญชาติไทยต่อไปนี้อยู่กับคนไทยมานานแค่ไหนแล้ว...
ยานัตถุ์หมอมีของบริษัทหมอมี จำกัด คือผู้อาวุโสสุดด้วยอายุ 117 ปี ผู้ให้กำเนิดคือ นายมี เกษมสุวรรณ หรือหมอมี ซึ่งเป็นข้าราชการปรุงยาในโอสถศาลา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2441 หมอมีได้เปิดกิจการส่วนตัวจดทะเบียนจัดตั้ง "ห้างขายยาบุญมีดิสเปนซารี" หรือ "ห้างหุ้นส่วนจำกัดขายยาบุญมี" เป็นธุรกิจผลิตยา ปรุงยาแผนโบราณ เช่น ยานัตถุ์หมอมี ยาอุทัยหมอมี, ยาตรีนิสิงเหหมอมี, ยาธาตุน้ำแดงหมอมี, ยาไส้เดือน (ยาถ่ายพยาธิ), ยากวาดแสงหมึก (ยาแก้ร้อนใน) และนำเข้าสารเคมีทางการแพทย์ รวมทั้งยานำเข้าจากต่างประเทศ แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและอยู่ยงคงกระพันที่สุดก็คือ ยานัตถุ์หมอมี ที่ยังครองตลาดมาจนปัจจุบัน
ปูนตราช้าง ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (ต่อมาคือ เครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG) มีอายุถึง 102 ปี ปูนตราช้างถือกำเนิดขึ้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ที่ทรงโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้ง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ในปี พ.ศ. 2456 ด้วยพระราชประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยลดการพึ่งพาการนำเข้าปูนจากต่างประเทศ และทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ "ช้างเผือก" เป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คำว่า "ตราช้าง" จึงถือกำเนิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
น้ำปลาทิพรส อายุ 102 ปี ผลิตภัณฑ์จาก บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด โรงงานผลิตน้ำปลารายแรกของประเทศไทย ที่เริ่มผลิตน้ำปลาครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 ในยุคสมัยที่คนไทยยังใช้เกลือปรุงรสอาหาร นายไล่เจี๊ยง แซ่ทั้ง ได้เริ่มทดลองผลิตน้ำปลาจากปลาหลายชนิด และค้นพบว่าน้ำปลาที่ทำจากปลากะตักให้รสชาติหอมอร่อยที่สุด ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีน้ำปลาตราทิพรสก็ได้รับการยอมรับจากชาวบ้านในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง จนแพร่หลายไปทั่วประเทศ และเป็นน้ำปลายอดนิยมมาจนถึงทุกวันนี้
วิเศษนิยม ยาสีฟันสมุนไพรรายแรกของประเทศไทย อายุ 94 ปี ผลิตภัณฑ์ของ ห.ส.น.โรงงานวิเศษนิยม โดย นางผิน แจ่มวิชาสอน ภรรยาของคุณหลวงแจ่มวิชาสอน ได้รับสูตรยามาจากตำราของจมื่นสิทธิแสนยารักษ์ แพทย์แผนโบราณประจำโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เนื่องจากตอนนั้นคุณหลวงฯเป็นโรคลักปิดลักเปิดมีเลือดออกตามไรฟันและเหงือกบวม แล้วหายด้วยตำรายาของท่านจมื่นฯ ตอนแรกนางผินปรุงยาเพื่อใช้ดูแลนักเรียนและผู้ใกล้ชิด รวมถึงแจกในงานประชุมลูกเสือทั่วประเทศ ต่อมานางผินทำยาสีฟันวิเศษนิยมออกขายเมื่อปี พ.ศ. 2464 และแพร่หลายอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ไม้ขีดไฟตราพระยานาค อายุ 85 ปี ผลิตครั้งแรก พ.ศ.2453 เป็นไม้ขีดไฟยุคแรกของไทย เริ่มต้นผลิตโดย บริษัท ไม้ขีดไฟไทย จำกัด ในช่วงหนึ่งเจ้าของได้ขายกิจการให้ชาวต่างชาติไปแล้ว แต่ปัจจุบันคนไทยได้ซื้อกิจการกลับมาอีกครั้ง และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท จีไอเอฟ ไทยแมช จำกัด แม้ว่าปัจจุบันนี้คนไม่นิยมใช้ไม้ขีดไฟกันแล้ว แต่ไม้ขีดไฟตราพระยานาคยังไม่ตกหล่นไปตามยุคสมัย ยังเป็นไม้ขีดไฟที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด และยังวางอยู่บนเชลฟ์ได้อย่างไม่น้อยหน้าไฟแช็ก
เบียร์สิงห์ เบียร์ยี่ห้อแรกของเมืองไทย อายุ 81 ปี ของ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ก่อตั้งโดย พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) สืบเนื่องมาจากพระยาภิรมย์ภักดีได้ชิมเบียร์เยอรมันแล้วถูกอกถูกใจ จึงคิดว่าน่าจะทำขายในเมืองไทยได้ จึงตั้งโรงเบียร์ขึ้นในปี พ.ศ. 2473 และผลิตเบียร์สิงห์ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2477 บรรดานักดื่มเขาว่ากันว่าเป็นเบียร์ที่กลมกล่อม ถูกปากถูกใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงทำให้เบียร์สิงห์ครองความเป็นแบรนด์ชั้นนำของไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ยาอมตราตะขาบ 5 ตัว ของ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด กำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2478 ถึงตอนนี้ก็อายุ 80 ปีแล้ว คิดค้นสูตรโดย นายจุ้ยไซ แซ่ลิ้ม ชาวจีนที่อพยพมาเมืองไทยพร้อมกับความรู้ด้านสรรพคุณยาจีน นายจุ้ยไซผลิตยาขายเลี้ยงครอบครัว ทั้งยาหม่อง ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้หอบหืด ยาหอม และยาอมแก้ไอ แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดมีเพียงยาชนิดเดียวคือ ยาอม ปัจจุบันนอกจากยาอมตราตะขาบ 5 ตัว จะเป็นที่นิยมในเมืองไทยแล้ว ยังเป็นที่นิยมในต่างประเทศด้วย มีออร์เดอร์จากทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
พู่กันสง่ามะยุระ พู่กันยี่ห้อแรกของไทย อายุ 79 ปี ถือกำเนิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 โดยสง่า มะยุระ จิตรกรชาวอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี สง่า มะยุระ เขียนรูปเป็นอาชีพ ต่อมาได้เรียนทำพู่กันจากครูอาจารย์ จึงคิดทำพู่กันขาย เริ่มจากแบบที่เรียนมาคือการเอาขนหูวัวมาใส่หลอด ต่อจากนั้นได้ไปซื้อพู่กันที่นำเข้าจากเมืองนอกมาดูเป็นตัวอย่าง และพัฒนาดัดแปลงทำพู่กันขายเอง เมื่อกิจการพู่กันดีขึ้นจึงเปิดโรงงานทำพู่กัน ซึ่งเป็นโรงงานพู่กันแห่งแรกในประเทศไทย พู่กันสง่ามะยุระยังขายดิบขายดีต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องเขียนชิ้นสำคัญที่นักเรียนนักศึกษาต้องเคยใช้
ยาหม่องตราถ้วยทอง ของ บริษัท ถ้วยทองโอสถ อายุ 73 ปี มีจุดเริ่มต้นปี พ.ศ. 2485 โดยโยธิน ลีลารัศมี ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้สืบทอดกิจการยาของครอบครัวที่เริ่มมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ นายโยธินได้รับการถ่ายทอดสูตรและวิธีการปรุงยาขี้ผึ้ง ซึ่งมีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แก้พิษแมลงกัดต่อยจากแพทย์ชาวจีน ลองผิดลองถูกพัฒนาปรับปรุงสูตรและสีอยู่นาน จนออกวางขายในปี พ.ศ. 2485 ในชื่อ "อุ่งตงกอ" แปลว่า น้ำมันนักกีฬา และได้พัฒนาสูตรยามาเรื่อย ๆ จนได้เนื้อยาขี้ผึ้งสีเหลืองทอง และวางตลาดทำแบรนด์ใหม่ชื่อยาหม่องตราถ้วยทอง ในปี พ.ศ. 2487 และยังครองใจคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน กินส่วนแบ่งการตลาดของตลาดยาหม่องไปเกินครึ่งเลยทีเดียว
แป้งเย็นตรางู อายุ 68 ปี ที่ได้ยินกันมาจนติดหูว่า "อังกฤษตรางู" นั้น ไม่ได้กำเนิดในอังกฤษแต่อย่างใด แต่แป้งตรางูมีจุดเริ่มต้นมาจากห้างขายยาชื่อ "ห้างขายยาอังกฤษตรางู" ที่ก่อตั้งโดยหมอฝรั่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2435 ต่อมาปี พ.ศ. 2471 หมอล้วน ว่องวานิช ได้ซื้อกิจการห้างขายยาฯมาบริหาร กระทั่งปี พ.ศ. 2490 หมอล้วนจึงคิดค้นสูตรแป้งเย็นขึ้นมาเพื่อรักษาอาการผดผื่นคันให้คนไข้ แป้งเย็นตรางูจึงถือกำเนิดขึ้นมาและเป็นแป้งเย็นยี่ห้อแรกในโลก
เสื้อยืดตราห่านคู่ อายุ 62 ปี ของบริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด กำเนิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 ด้วยความเรียบง่าย สีพื้น ๆ ไม่มีลาย เนื้อผ้านิ่มบางเบาสวมใส่สบายและราคาย่อมเยา ทำให้เสื้อตราห่านคู่ยังเป็นเสื้อที่คนไทยไว้ใจในคุณภาพมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้ตราห่านคู่มีทั้งเสื้อยืดแขนสั้น เสื้อกล้าม สีขาว สีดำ สีเทา และมีกางเกงในสำหรับคุณผู้ชายด้วย แต่สินค้ายอดนิยมที่สุดก็ยังคงเป็นเสื้อยืดสีขาวที่ใส่ได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
รุ่งนภา พิมมะศรี : เรื่อง
.......................................
ที่มา: http://money.sanook.com/292583/
ขายดีไม่ตกยุค! สุดยอดแบรนด์ไทยคงกระพัน
Reviewed by Unknown
on
20:42
Rating:
Post a Comment